วิธีเลี้ยงไลทอปให้รอด !!




Lithops 

หลังจากที่เคยเขียนกระทู้ แคคตัสเป็นอะไร รวมสารพัดปัญหาที่เกิดกระบองเพชร พร้อมรูปประกอบ
พบว่าเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงกระบองเพชรค่ะ มีหลายคนทักมาสอบถามพูดคุย

วันนี้เลยอยากจะมารวมความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไม้อวบน้ำปราบเซียนอย่างไลทอปค่ะ


ไลทอปเป็นไม้อวบน้ำน่ารักมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายคนเรียกหินมีชีวิต มีหลากหลายหน้าตาหลายสีสัน

แต่ว่ากันว่าเป็นไม้ปราบเซียน เลี้ยงแล้วกลับดาวกันง่ายๆ บางคนเลี้ยงรอดมาเป็นปีๆอยู่ๆน้องอยากจะกลับดาวก็กลับดาวเฉยเลย

มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเราจะทำยังไงให้น้องรอดได้บ้าง


ดิน หรือ วัสดุปลูกไลทอป

ดินโปร่ง ไลทอปชอบดินโปร่งๆระบายน้ำดี ให้ผสมดิน 1 + วัสดุที่ทำให้โปร่ง 2 ส่วน 

>> ดินในที่นี้คือดินร่วนธรรมดาเลยได้นะคะ จะใส่ดินญี่ปุ่นอะคาดามะ ดินมูลไส้เดือน ดินใบก้ามปู พีทมอส ผสมไปด้วยก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าเป็นดิน

>> วัสดุที่ทำให้ดินโปร่งก็ เช่น หินภูเขาไฟ(แนะนำใช้เบอร์เล็กให้เหมาะกับต้น เช่น เบอร์ 00) เพอร์ไลท์ เวอมิคูไลท์ 
ส่วนพวกขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวสับก็ทำให้ดินโปร่งขึ้นแต่ว่าจะอุ้มน้ำได้ค่อนข้างดีดังนั้น ถ้าจะใส่ให้ถือเป็นส่วนของดินค่ะ
บางคนใช้หินภูเขาไฟหมดเลยก็มี แต่ส่วนตัวคิดว่ามันทำให้น้องโตช้าค่ะ เพราะแร่ธาตุไม่เพียงพอ แต่ของแบบนี้ไม่ตายตัวค่ะ แต่ละบ้านอาจจะมีสูตรที่เหมาะสมต่างกันได้ แต่ให้เน้นที่ความโปร่ง


หินโรยหน้าสำหรับไลทอป

เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับไลทอปเพราะว่าไลทอปมีผิวที่อ่อนนุ่มบอบบาง หินโรยหน้าต้องเป็นประเภทที่ไม่แหลม ไม่งั้นอาจบาดผิวเค้าเป็นแผลได้ง่ายๆ ห้ามใช้กรวดตู้ปลา(แบบประมาณในรูปด้านล่างนี้)เด็ดขาด เพราะว่าพวกกรวดนี้จะแน่นมาก ไม่มีรูพรุน นน.เยอะ ถ้าเราเอามาโรยหน้าน้ำจะไม่ระบายเลยค่ะ ทำให้ดินชื้นเป็นเวลานานเกินไปสำหรับไลทอป
 


 
หินภูเขาไฟก็สามารถนำมาโรยหน้าได้แต่จะมีลักษณะค่อยข้างเบา เวลารดน้ำอาจกระเด็นหรือลอยออกมาได้ ปกติ cactusCee จะใช้ดินอะคาดามะโรยหน้า เพราะระบายน้ำค่อนข้างเร็ว ง่ายต่อการเปลี่ยนกระถาง แถมดูสวยงามดีค่ะ


การรดน้ำที่เหมาะสมกับไลทอป
หลักการเหมือนแคคตัสค่ะคือลดเมื่อดินแห้ง แต่มีเคล็ดลับง่ายๆคือไม่ต้องลดทะลุกระถาง ลดกะให้พอน้ำถึงรากเค้า จะได้ไม่มีปัญหาต้นปริแตกหรือรากเน่าตามมา และอีกเคล็ดลับสำหรับมือใหม่คือให้ลดไม่ให้โดนตัวต้นก็จะช่วยลดปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าไลทอปได้ค่ะ ถ้ามือใหม่ยังกะไม่ได้ว่าน้ำเท่าไหนที่พอดี ให้ลดน้อยๆไว้ก่อนแล้วลองเว้นช่วงวันดูค่ะ เช่น รดน้อยๆทุก 5 วัน ถ้าน้องเริ่มมาการการย่นๆนิดๆหละก็แสดงว่าน้ำไม่พอค่ะ ให้เรารดน้ำปริมาณมากขึ้นหรือเอาชัวร์ก็ปริมาณเท่าเดิมแต่วันถี่ขึ้นก็ได้ เช่น จาก 5 วันเป็นทุก 4 วัน ต้นที่ใหญ่แล้วก็อาจจะสามารถทิ้งไว้ได้นานขึ้นเพราะมีน้ำสะสมในต้นมาก แต่ละฤดูก็อาจจะมีการปรับการรดน้ำอย่างหน้าฝนความชื้นในอากาศสูงเราก็ต้องเว้นช่วงในการรดน้ำให้ห่างขึ้นค่ะ ลองไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้จังหวะที่พอดีที่ไม่ทำให้เค้าย่น เรื่องน้ำบอกตายตัวไม่ได้เลยเพราะว่าแต่ละบ้านอากาศถ่ายเท แสงแดด ตำแหน่งที่วางต่างกัน ก็ทำให้น้ำแห้งเร็วช้าไม่เหมือนกัน

**ไม่แนะนำให้ใช้ฟ๊อกกี้ฉีดนะคะ เพราะทำให้น้องได้รับน้ำไม่เพียงพอ แถมน้ำยังจะไปเกาะตามต้นทำให้น้องเน่าได้อีกด้วยค่ะ**


ปุ๋ยสำหรับไลทอป

!! ห้าม ห้าม ห้าม !!

ปกติการใส่ปุ๋ยมากเกินไปสำหรับกระบองเพชรก็ให้ผลเสียอยู่แล้ว (อ่านเรื่องปุ๋ยกับกระบองเพชร https://cactuscee.blogspot.com/2019/10/n-p-k.html ) แต่สำหรับไม้โตช้าอย่างไลทอปคือ ห้าม ห้าม ห้าม เลยค่ะ เพราะน้องเค้าไม่ต้องการ ปุ๋ยจะพาน้องกลับดาวเอาง่ายๆ 


กระถางสำหรับไลทอป
เคยเขียนเรื่องกระถางที่เหมาะสำหรับแคคตัสไว้ใน https://cactuscee.blogspot.com/2019/09/blog-post_90.html

กระถางไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เน้นระบายน้ำดี ดังนั้นกระถางพวกดินเผาก็สามารถนำมาใช้ปลูกได้ดีเลยค่ะ

แดดที่เหมาะสมกับไลทอป

น้องไลทอปผิวค่อยข้างบางไม่มีอะไรปกคลุม การโดนแดดแรงๆตรงๆนานๆจะทำให้เค้ากลับดาวได้ ให้ให้แดดประมาณ 60%-70% ก็เพียงพอ ถ้าเราปลูกรวมกับแคคตัสพันธุ์อื่นๆก็ให้วางเจ้าไลทอปไว้ล่างๆหน่อยค่ะ แล้วพยายามวางด้านที่เน้นแดดเช้าแต่เลี่ยงแดดบ่าย หรืออาจจะใช้พวกสแลนคลุมได้ค่ะ
การได้รับแสงนอยเกินไปอาจจะไม่ได้ทำให้น้องถึงกับตายแต่ว่าก็จะมีลักษณะยืดหาแสงเราก็ต้องคอยสังเกตปรับน้องไปวางในที่ได้รับแสงมากขึ้น แต่ก็ต้องค่อยเทรนแดด(ค่อยเพิ่มแสงแดดหรือชั่วโมงในแสงแดด) ห้ามย้ายไปทีเดียว เพราะอาจทำให้น้องปรับตัวไม่ทันแล้วตายได้ค่ะ

เลี้ยงยังไงให้น้องไลทอปสีสดๆ
ให้ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ แต่ต้องไม่มากไป ไม่ใส่ปุ๋ย ถ้ารู้สึกว่ากลัวว่าน้องจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอให้เป็นการเปลี่ยนดินแทน

ที่นี้ลองมาส่องน้องกันค่ะ ..น่ารักใช่รึเปล่าค่ะ

 

เราจะเห็นว่าบางต้นเหมือนมีอะไรงอกมาตรงกลาง นั่นคือน้องกำลังผลัดใบค่ะ เวลาผลัดใบเค้าจะไม่ค่อยต้องการน้ำ ก็พยายามอย่ารดน้ำเยอะค่ะ ให้เน้นไปทางต้นอื่นแทน

อย่างกระถางนี้จะเห็นมีต้นที่เหี่ยวมาๆอยู่บนซ้าย นี่ก็เป็นอาการว่าน้องใกล้จะกลับดาวแล้วค่ะ ถ้าจับดูแล้วนิ่มก็คือไม่รอดแล้ว แต่ถ้าไม่นิ่มยังพอมีลุ้นค่ะ


ถ้าเราดูน้องบ่อยๆเราก็จะสังเกตเห็นไปอีกว่าต้นไหนเป็นอย่างไรบ้าง บางต้นยืด ก็ค่อยๆเทรนแดด บางต้นย่น ก็ปรับการให้น้ำ

อย่างกระถางนี้ถ้าเลี้ยงมาสักพักแล้วจะดูรู้เลยว่ารากใหม่น้องยังไม่เดิน หรือรากยังไม่เกาะดิน สังเกตได้จากต้นเอนไปเอนมา มีลักษณะงอ ไม่เต่งตึง
วิธีให้รากเกาะ บางคนก็ใช้หินภูเขาไฟล่อราก แต่สำหรับ cactusCeeไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็คือ ไว้ในที่แดดไม่แรงและก็ให้น้ำอย่างพอเหมาะไปเรื่อยๆค่ะ

ดินแห้งก็ให้ เพื่อกระตุ้นราก พอรากใหม่ออกมาเกาะแล้ว เราจะสังเกตเห็นเลยว่าต้นตึงขึ้น ตรงขึ้น เอามือไปเตะก็จะไม่โยกหรือล้มง่ายๆค่ะ

เป็นยังไงบ้างค่ะสำหรับคนเลี้ยงกระบองเพชรมาแล้วอาจจะปรับได้ไม่ยากมาก ไลทอปไม่ได้เลี้ยงยากอย่างที่คิด เพียงแค่เค้าต้องการการดูแลรักษาที่ต่างจากต้นไม่ชนิดอื่นเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาเป็นเพียงข้อมูลรวมๆสำหรับไลทอปโดยทั่วไป ส่วนสายพันธุ์ย่อยของเจ้าไลทอปก็จะมีความแตกต่างในการดูแลที่แตกต่างกันไปอีกค่ะ และก็ไม่มีอะไรตายตัว แต่ละคนอาจมีวิธีที่ต่างกันไป เราก็สามารถเลือกใช้แล้วปรับให้เข้ากับไม้ที่บ้านเรากันค่ะ 


ซื้อไลทอปได้ที่ ราคาถูกได้ที่ https://shopee.co.th/Lithops-%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%9B-%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B0-20-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-i.3612100.7715794127

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

LB2178แท้ ไม่แท้ดูยังไง

เมล็ดแคคตัส เรื่องของฝัก ฝักสุกรึยังดูยังไง เด็ดได้ตอนไหน

โรคในกระบองเพชร แคคตัสเป็นอะไร สารพัดปัญหาที่เกิดกับกระบองเพชร พร้อมรูปประกอบ